“หลี่จื้อ ฮ่องเฮา” จอมโหด จิตวิปริต แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก

หลี่จื้อ ฮ่องเฮา ในประวัติศาสตร์จีนโบราณ หากใครชอบอ่านหนังสือ ก็คงคิดว่า “ซูสีไทเฮา” โหดร้ายอยู่แล้ว แต่… ยังมีจักรพรรดินีอีกองค์หนึ่งที่โหดร้ายไม่แพ้กัน ไม่เพียงเท่านั้น เธอยัง “โรคจิต” อย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย มาอ่านกันดีกว่าว่าสนุกแค่ไหน ฉันจะสรุปให้กระชับและเข้าใจง่าย “จักรพรรดินีหลี่” เดิมมีพระนามว่า “หลี่จื้อหรือหลี่โหว” (吕后) (241–180 ปีก่อนคริสตกาล) และเป็นพระชายาของ “จักรพรรดิฮั่นเกาจู่” 漢高祖 ซึ่งมีพระนามเดิมว่า “หลิวปัง” พระนางสามารถปราบเจ้าชายเซียงหยู่และสถาปนาตนเองในราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (206 ปีก่อนคริสตกาล) ได้ จักรพรรดินีมีบุตรสาวสองคน ลูกชายชื่อ “หลิวอิง” 劉盈 และลูกสาวชื่อ “เจ้าหญิงลู่หยวน” 魯元 เดิมที หลิวปัง (จักรพรรดิ) เป็นเพียงลูกสาวชาวนา เธอไม่ชอบเรียนหนังสือ มีเพียงการดื่มเหล้าและออกไปข้างนอก เธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้าน

 

หลี่จื้อ ฮ่องเฮา แต่แล้วหลิวปังก็เหมือนตกถังข้าวสารอย่างจัง

 

หลี่จื้อ ฮ่องเฮา วันหนึ่งพ่อของหลี่โฮ้ว (หลี่ฮ่องเฮา) เป็นเศรษฐีพ่อค้าข้าวที่ร่ำรวยได้จัดงานเลี้ยงใหญ่โต แต่หลิวปังอยากเข้างานแต่ดันไม่มีเงินใส่ซอง จึงแกล้งเขียนหน้าซองว่าให้หนึ่งหมื่น พอได้เข้างานก็คุยโวโอ้อวดจนพ่อของหลี่โฮ้วชอบใจใหญ่ จึงยกลูกสาวคือหลี่โฮ้วให้ (ยกให้ง่ายดีเนอะ 555)  เพราะความมีเงิน มีอำนาจและรวยในการส่งเสบียงให้กองทัพ ทำให้ตระกลูหลี่ของนางและพ่อตานั้นมีอำนาจและบารมี ก็สามารถผลักดันให้หลิงปัง (สามี) ในช่วงปี 202 ก่อนคริสตกาล หลิวปังก็สามารถรวบรวมแผ่นดินได้ จนได้ขึ้นเป็น ” ฮ่องเต้ฮั่นเกาจู “นั่นเอง

 

วีรกรรมโหดเหี้ยม 1 ฆ่าขุนพลคนแรก

 

มักกระซิบข้างหูสามีว่าแม่ทัพ “ หานเซิน ” ผู้ได้รับเครดิตว่าสามารถปราบเซียงหยูและปกครองแคว้นฉู่ได้ จะทำรัฐประหาร จึงเรียกตัวเขามาที่วังเพื่อลดยศและคุมขังเขาไว้ที่วังหลวงเป็นเวลา 4 ปี เมื่อมีเจ้าเมืองอีกคนวางแผนก่อกบฏ จักรพรรดิจึงเดินทางไปปราบปรามเขา หานเซินมีโอกาสวางแผนก่อกบฏในวัง แต่โชคร้ายที่จักรพรรดินีหลี่จื้อทราบเรื่องแผนนี้ เขาจะรอดไหมครั้งนี้ เขาถูกสั่งให้ประหารชีวิตเป็นเวลา 3 ชั่วอายุคนจนกว่าจะเสร็จสิ้นทั้งหมด

 

วีรกรรมโหดเหี้ยม 2 ฆ่าขุนพลคนที่ 2

 

ขุนพล ” เผิงเยว์  ” อีกคนที่ร่วมรบกับสามีได้ความดีความชอบเป็นอ๋องแคว้นเหลียง คนนี้ก็ไม่รอดพอฮ่องเต้สั่งให้เผิงเยว์ยกกองทัพไปแคว้นเหลี่ยงเพื่อปราบกบฎ เผิงเยว์ดันอ้างว่าป่วยไม่ยกทัพไปช่วย ฮ่องเฮาจึงเป่าหูสามีว่า..ขืนให้เผิงเยว์ไปอยู่เสฉวนก็เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า อาจจะมาแว้งกัดได้ในภายหลัง ก็สั่งให้ประหาร 3 ชั่วโครตไปอีกคน และสั่งให้สับศพของเผิงเยว์เป็นชิ้นๆส่งให้แคว้นต่างๆดูว่าอย่ามาลองดีกับนาง

 

วีรกรรมโหดเหี้ยม 3 ทรหมานนางสนมคนโปรดของฮ่องเต้

 

พระจักรพรรดิทรงโปรดปรานพระสนมนามว่า “ พระสนมซีฮุยอิน ” และทรงวางแผนที่จะปลด “จางอ้าว” สามีของลูกสาว (เจ้าหญิงลู่หยวน) ออกจากตำแหน่ง และให้พระโอรส “หลิวรุ่ยอี” (ซึ่งเกิดจากพระสนมซีฮุยอิน) ขึ้นครองราชย์แทน แต่ที่ปรึกษาของพระจักรพรรดินีคัดค้าน นี่เป็นหายนะสำหรับท่านลอร์ด พระองค์ไม่ทรงพอพระทัยอย่างยิ่ง เมื่อจักรพรรดิฮั่นเกาจู่สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 195 “หลิวอิง” (พระโอรสของพระสนมซีฮุยอิน) ซึ่งขณะนั้นพระชนมายุเพียง 17 พรรษา ได้ขึ้นครองราชย์แทนพระราชบิดาของพระสนม เธอได้กลายเป็น “พระสนมลี” และทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ของพระจักรพรรดิ เธอวางแผนที่จะแก้แค้นพระสนมซีฮุยอินด้วยวิธีที่โหดร้ายและวิปริตที่สุด โดยทรงสั่งให้พระสนมโกนผม ลดตำแหน่งพระสนมให้เป็นทาส และล่ามโซ่พระสนมให้ทำงานหนักโดยการโม่แป้ง หากแค่นั้นยังไม่พอ นางยังสั่งให้ตัดแขนและขา ควักลูกตา ควักหู ตัดลิ้น แล้วจึงล่ามโซ่ไว้กับโถส้วมใกล้คอกหมูเพื่อกินอุจจาระหมูแทน สนมซีหูหยินได้แต่ครางอย่างหมูน้อยน่าสงสาร

 

วีรกรรมโหดเหี้ยม 4 ฆ่าลูกชายสนมซีฮูหยิน

 

สังหารลูกชายของพระสนมซีหูหยินซึ่งมีอายุเพียง 12 ปี แต่เนื่องจากจักรพรรดิหลิวอิงมีความใกล้ชิดกับ ” หลิวรุ่ยยี่ ” (พระอนุชาต่างมารดา) เขาจึงพยายามอยู่ใกล้เธอเพราะกลัวว่ามารดาของเขา พระพันปีหลี่ จะมาฆ่าพระอนุชาของนาง แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น วันหนึ่ง พระพันปีหลี่ปลุกหลิวรุ่ยยี่ให้ไปล่าสัตว์ แต่พระอนุชายังเด็กและง่วงนอนอยู่ จึงไม่ได้ไปกับนาง จึงถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง พระพันปีหลี่จึงใช้โอกาสนี้ส่งมือสังหารไปจับหลิวรุ่ยยี่แล้วใช้พิษฆ่านาง เมื่อพระพันปีหลี่กลับมา พระองค์เศร้าโศกมาก แต่ไม่สามารถทำอะไรแม่ได้

ครั้งหนึ่งพอมีในงานเลี้ยงฮ่องเฮาก็เบิกบานใจ ลูกชายก็ถามว่า “เสด็จแม่ดีใจเรื่องอะไร ?” หลี่ไทเฮาก็บอกว่า..”ตามมาซิ..แม่จะให้ดูของประหลาด” ฮ่องเต้ก็แปลกใจแม่จะพาไปยังส้วมสกปรกทำไม ? หลี่ไทเฮาก็อธิบายและชี้ให้ลูกชายดูนางสนมซีฮูหยิน และบอกกับลูกชายว่า… “นี่คือสัตว์ประหลาดเรียกว่า “มนุษย์หมู” อย่างหัวเราะชอบใจ

ฮ่องเต้หลิวอิ๋งเห็นภาพก็ตกใจ เพราะนี่คือสนมซีฮูหวินที่ท่านพ่อเคยโปรดปราน จึงทำให้เข้าใจแล้วว่าแม่ของตนนั้นเหี้ยมโหดเพียงใด ดังนั้นถ้าแม่สั่งอะไรก็ต้องรีบทำตามอย่างไม่บิดพริ้ว มีหน้าที่ทำตามอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นอาจจะพบชะตากรรมเดียวกัน จึงทำให้ฮ่องเต้หลิวอิ๋งใช้ชีวิตไปวันๆ เสเพล กินเหล้า เพื่อจะได้ไม่ต้องไปเกะกะการกระทำของหลี่ไทเฮา แม่อยากทำอะไรก็เชิญตามสบาย ปล่อยหลี่ไทเฮา เสด็จแม่คุมอำนาจทั้งหมดไป

 

วีรกรรมโหดเหี้ยม 5 คิดจะวางยาพิษลูกชายเมียเก่าฮ่องเต้ฮั่นเกาจู

 

เขาวางแผนจะสังหาร ” หลิวเฟย ” ลูกชายของอดีตภรรยาของจักรพรรดิฮั่นเกาจู่ (เขาเป็นน้องชายต่างมารดาของจักรพรรดิหลิวอิงด้วย) เขาจัดงานเลี้ยงและเรียกหลิวเฟยเข้าไปในวังเพื่อดื่มไวน์พิษสองถ้วย จักรพรรดิหลิวอิงไม่รู้และต้องการดื่มอีกถ้วยเช่นกัน จักรพรรดินีหลี่รีบโยนแก้วไวน์ลงพื้นทันที ทำให้หลิวเฟยตระหนักถึงความรู้สึกของเขาและไม่ดื่มไวน์ถ้วยนั้น ดังนั้นเธอจึงไม่ตาย อย่างไรก็ตาม คนคนนี้ฉลาดและรู้ว่าจักรพรรดินีหลี่รักเจ้าหญิงลู่หยวนมาก จึงปล่อยให้เจ้าหญิงลู่หยวนเป็นแม่บุญธรรมของเขาเพื่อความอยู่รอด จักรพรรดินีหลี่พอใจและไม่ถูกฆ่า

 

วีรกรรมโหดเหี้ยม 6 เอาลูกคนชาวบ้านมาเลี้ยง

 

หลี่จื้อ ฮ่องเฮา นางได้มอบหลานสาว “ จักรพรรดิจาง ” (ธิดาของเจ้าหญิงลู่หยวน) ให้เป็นภรรยาของจักรพรรดิหลิวอิง (ลูกชายของนาง) แต่จักรพรรดิไม่มีบุตร นางจึงวางแผนรับบุตรบุญธรรมของชาวบ้านสองคนมาเลี้ยงและฆ่าพ่อแม่ของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาโกหกว่าเป็นลูกของจักรพรรดิ (โดยหวังว่าจะสืบราชสมบัติต่อไป) แต่เมื่อลูกชายของจักรพรรดิหลิวอิงล้มป่วยและเสียชีวิต นางจึงสั่งให้ลูกชายปลอมชื่อ “หลี่กง” (บุตรของชาวบ้าน) สืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิ แต่เด็กน้อยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงตะโกนว่าจักรพรรดินีหลี่ฆ่าพ่อแม่ของเขาและเธอจะแก้แค้นสักวัน เมื่อจักรพรรดินีหลี่ได้ยินเรื่องนี้ เด็กน้อยก็ไม่หลบหนีและสั่งประหารชีวิตจักรพรรดิเด็กทันที และสั่งให้บุตรอีกคนชื่อ “หลี่หง” ขึ้นดำรงตำแหน่งจักรพรรดิแทน

 

บทความแนะนำ